Gap Year คือช่วงเวลาแห่งการพักยาวหนึ่งปี จะก่อนหรือหลังเรียนมหาวิทยาลัยก็แล้วแต่บุคคล เป็นอีกช่องทางที่หลายคนสนใจหลังจากที่ร่ำเรียนกันมานาน บางคนเรียนจบแล้วแต่คิดไม่ออกว่าจะเรียนอะไรต่อดี? ก็จะใช้เวลานี้เพื่อไปค้นหาตัวตน พักผ่อน หรือเที่ยวหาประสบการณ์ไปก่อน แต่มีปัจจัยเบื้องต้นที่ควรรู้ไว้ก่อนเกี่ยวกับ Gap Year นะ ใครเล็งๆ ไว้ลองอ่านเป็นข้อมูลเบื้องต้นกันไว้ก่อนได้เลยจ้า Gap Year คืออะไร? 6 สิ่งที่ควรรู้ก่อนคิดจะพักยาว เพื่อค้นหาตัวตน 1. ความหมาย Gap Year (แก๊ปเยียร์) Gap Year (แก๊ปเยียร์) คือ ช่วงเวลาพักหลังเรียนเพื่อค้นหาตัวตน จะฮิตในหมู่วัยรุ่นตะวันตก คือในต่างประเทศเด็กนักเรียนมัธยมเมื่อเรียนจบแล้วสำหรับคนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสาขาไหนดี ก็จะใช้ช่วงเวลานี้ค้นหาตัวตนกันก่อน คือพวกเค้าจะไม่รีบร้อนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ต้องแน่ใจจริงๆ ก่อนว่าต้องการจะเรียนอะไรกันแน่ ทั้งนี้ไม่ได้จำกัดว่าว่าจะต้องเป็นช่วงเรียนปริญญาตรีเท่านั้น อาจจะเป็นช่วงเรียนจบปริญญาตรีแล้วต่อปริญญาโทก็ได้เช่นกัน 2. ทำอะไรได้บ้างในการ Gap Year หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้ว Gap Year สามารถทำอะไรได้บ้าง จริงๆ แล้วไม่มีการจำกัดคือเราสามารถเลือกสิ่งที่เราอยากจะทำได้เลยเพื่อค้นหาตัวเอง ซึ่งในการค้นหาตัวเองก็อาจจะต้องทำผ่านกิจกรรมต่างๆ ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ เช่น ออกค่ายอาสาสมัคร ลงคอร์สเรียนออนไลน์, Work and Travel ทำงานพิเศษ สวนสนุก ร้านอาหาร, ไปเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ 3.
คือผมลองค้นหาข้อมูลมาบ้างแล้ว ผมพบว่ามันมีความแตกต่างดังนี้ครับ 1. การศึกษาที่เค้าให้เด็กฝึกคิดวิเคราะห์มากกว่าบ้านเรา 2. เงินทุนที่เค้ามีค่อนข้างเยอะ 3. ระบบสิทธิบัตรที่เข้มแข็งกว่าของเรา 4. การส่งเสริมทางการศึกษาให้เด็กมีความรู้ทางเทคโนโลยี อย่างเช่น ฝึกcodingตั้งแต่เด็ก 5. สงคราม ความขัดแย้งต่างๆที่มากกว่าบ้านเรา ทำให้ต้องแข่งกันพัฒนาเทคโนโลยี 6. การสนับสนุนจากทางภาครัฐ 7.
คงเป็นช่วงที่บัณฑิตจบใหม่หลายคนกำลังประสบปัญหากับความรู้สึก 'เคว้ง' เพราะในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ มีงานทำกันไปหมดแล้ว แต่เรายังต้องการเวลาอีกสักปีสองปีเพื่อค้นหาความชอบของตัวเองอยู่เลย การมี 'แกปเยียร์' (gap year) หรือช่วงเวลาพักผ่อนหลังเรียนจบ ทำไมถึงทำให้รู้สึกกดดันได้ถึงขนาดนี้กันนะ?
การค้นหาตัวตนควรจะเป็นสิทธิโดยชอบธรรมตั้งแต่เกิดหรือไม่? ทุกวันนี้เราก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสืออย่างหนักเพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยความชอบจริงๆ? หรือมันเป็นเพียงไม่กี่ทางเลือกที่สังคมบีบให้เราต้องเดิน?
สำหรับน้องๆ ที่คิดจะใช้ GAP YEAR ก็ควรมีการวางแผนชีวิตดีๆ ไม่ใช่แค่หยุดเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย ไม่ตั้งเป้าหมาย ปล่อยชีวิตไปวันๆ ถ้าทำแบบนั้น ช่วงเวลาที่เสียไปมันก็คงดูไร้ค่า และถ้าใครกำลังหยุดเพื่อค้นหาตัวเองอยู่ พี่ก็ขอให้น้องค้นพบตัวเองเร็วๆ และจากนั้นก็ลุยทำตามเป้าหมายให้เต็มที่เลย FIGHTING!
สถานการณ์ เหตุผลที่ตัดสินใจ 2. การเตรียมพร้อม Plan ที่อยากไปทำต่อจากนี้ 3. ระยะเวลา ที่กำหนดให้ตัวเอง เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี แชร์ส่วนตัว: เราคุยกับครอบครัวไว้ก่อนล่วงหน้าราวๆ 2–3 เดือนก่อนตัดสินใจลาออก โชคดีที่ที่บ้านไม่มีข้อกังวลในการตัดสินใจครั้งนี้ ถ้าตัดสินใจ Gap Year แล้ว การเตรียม Plan เป็นสิ่งนึงที่สำคัญ เพราะทุกเวลา 24 ชั่วโมงจะเป็นของเรา จะใช้งานยังไงก็ได้ เราอาจจะมีความรู้สึกว่ามีเวลาเหลือๆ จนทำให้รู้สึกขี้เกียจไปได้ เลยควรมีการเขียน Plan คร่าวๆว่าจะทำอะไรในแต่ละวัน หรือ แต่ละสัปดาห์บ้าง รวมถึงตั้งเป้าหมายเล็กๆ (Small Win) วันนี้จะทำอะไร? จะไปไหน? จะออกกี่โมง? วีคนี้อยากเรียนรู้อะไร? อยากได้ทักษะอะไรเพิ่ม? จะอ่านหนังสือเล่มไหนต่อ? อยากคุยขอคำแนะนำจากใคร?
Gap Year คือ ช่วงเวลาพักหลังเรียนเพื่อค้นหาตัวตน ช่วงเวลาแห่งการพักยาวหนึ่งปี จะก่อนหรือหลังเรียนมหาวิทยาลัยก็แล้วแต่บุคคล เป็นอีกช่องทางที่หลายคนสนใจหลังจากที่ร่ำเรียนกันมานาน บางคนเรียนจบแล้วแต่คิดไม่ออกว่าจะเรียนอะไรต่อดี? ก็จะใช้เวลานี้เพื่อไปค้นหาตัวตน พักผ่อน หรือเที่ยวหาประสบการณ์ไปก่อน ซึ่งในการค้นหาตัวเองก็อาจจะต้องทำผ่านกิจกรรมต่างๆ ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ เช่น ออกค่ายอาสาสมัคร ลงคอร์สเรียนออนไลน์, Work and Travel ทำงานพิเศษ สวนสนุก ร้านอาหาร, ไปเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ ทุกๆ การทำกิจกรรม ก็จะต้องมีในเรื่องของค่าใช้จ่ายเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามหากคิดจะ Grab year ก็อย่าลืมวางแผนในส่วนของการเงินด้วยเพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ถึงแม้คุณมีแพลนจะไปทำงานแต่ก่อนที่จะได้งานก็ต้องใช้เงินของตัวเองก่อนอยู่ดี! !
Ryugaku Japan" ( แหล่งที่มา) ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนให้เยาวชนญี่ปุ่นไปหาสบการณ์ในต่างประเทศเยอะๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์และพัฒนาภาษา โดยรัฐบาลจะให้ทุนกับเยาวชนที่มีความสนใจไปฝึกงาน ไปทำงานอาสา หรือไปโครงการแลกเปลี่ยนต่างๆ ครับ โลโก้โครงการ Tobitate!